เมนู

ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี ปัจฉิม-
จิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจาร จักเกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี วจีสังขาร
ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น,
ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต วจีสังขารไม่ใช่จักเกิด และจิตตสังขาร
ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด ฯ ล ฯ
ใช่.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ

โอกาสวาระ


กายสังขารมูละ ฯ ล ฯ


[1199] กายสังขารไม่ใช่จักเกิดในภูมิใด ฯ ล ฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ

ปุคคโลกาสวาระ


กายสังขารมูล


กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-


[1200] กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจี-
สังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ
ก็ดี ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ จักเกิดในลำดับแห่ง
จิตใดก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูป-
วจรภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่จักดับเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่
วจีสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิม-
จิตที่มีวิตกและมีวิจารก็ดี บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตที่ไม่มีวิตก
และไม่มีวิจารก็ดี ปัจฉิมจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจาร จักเกิดในลำดับ
แห่งจิตใดก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่จักเกิด และวจีสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขาร
ก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ วจีสังขารไม่ใช่จักดับ
แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีวิตกและมีวิจารก็ดี บุคคลที่